แชร์ลูกโซ่ (Pyramid Scheme) หรือกลโกงการหลอกลวงทางธุรกิจที่มักเกี่ยวข้องกับการหาสมาชิกใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่พบได้ในหลายรูปแบบโดยมีลักษณะร่วมคือการนำเสนอผลประโยชน์ทางการเงินโดยให้ผู้เข้าร่วมต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมหรือชักชวนผู้อื่นมาเป็นสมาชิกโดยหวังผลจากค่าสมัครของคนใหม่ๆต่อไปในบทความนี้เราจะมาสำรวจ 7 กลลวงที่ควรระมัดระวังในการเจอแชร์ลูกโซ่
1. แอบอ้างชื่อผู้มีอิทธิพล
แชร์ลูกโซ่หลายกรณีมักใช้ชื่อหรือภาพของผู้มีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการชักชวนผู้คนเข้ามาร่วมลงทุน การแอบอ้างเหล่านี้ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย แม้ว่าในความเป็นจริงผู้ที่ถูกอ้างถึงอาจไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับโครงการหรือการลงทุนดังกล่าว
2. ให้ลงทุนในตลาดเงินตรา
อีกหนึ่งประเด็นที่พบบ่อยในแชร์ลูกโซ่คือการหลอกลวงให้ลงทุนในตลาดเงินตราหรือสกุลเงินดิจิทัล เช่น
บิทคอยน์ โดยสัญญาว่าผลตอบแทนสูงเกินจริง แต่ในความเป็นจริงผู้ที่ได้รับผลตอบแทนจริงจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมแรก ๆ เท่านั้น ในขณะที่คนที่เข้ามาภายหลังจะเสียเงินทุนโดยไม่มีโอกาสได้กำไร
3. หลอกคนด้วยสินค้าการเกษตร
กลุ่มที่ใช้สินค้าการเกษตร เช่น ปุ๋ย สารอาหารพืช หรือผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ เพื่อหลอกลวง โดยแชร์ลูกโซ่แบบนี้จะชักชวนให้ซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยให้ความหวังว่าจะสามารถทำกำไรจากการขายต่อ หรือจากการแนะนำให้ผู้อื่นมาซื้อ แต่ในความเป็นจริงสินค้ามักมีคุณภาพต่ำและไม่สามารถขายได้ตามที่กล่าวอ้าง
4. หลอกว่าได้เป็นหุ้นส่วนใหญ่
หนึ่งในกลลวงที่ถูกนำมาใช้คือการหลอกลวงว่าจะได้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทหรือโครงการต่าง ๆ โดยมักเสนอสิทธิในการเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนเงินที่สูง พร้อมให้สัญญาว่าผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นส่วนแบ่งกำไรอย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการดึงเงินจากผู้ลงทุนใหม่ ๆ โดยไม่มีการลงทุนจริงเกิดขึ้น
5. ใช้คำลวง สำหรับคนรักงานสบาย
แชร์ลูกโซ่มักใช้คำเชิญชวนแบบ “งานสบาย” หรือ “ทำงานที่บ้านก็ได้เงิน” เพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่มองหางานที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมาก แต่ได้ผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม แท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงการหาสมาชิกใหม่เพื่อให้ส่งเงินค่าร่วมงาน และไม่มีงานหรือธุรกิจที่แท้จริงรองรับอยู่เบื้องหลัง
6. อวดอ้างสรรพคุณ
การขายสินค้าที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของแชร์ลูกโซ่โดยจะหลอกขายผลิตภัณฑ์ที่มักเกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ยา อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย โดยบอกว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป ทั้งที่ความจริงไม่มีหลักฐานหรือการวิจัยรองรับในคุณสมบัติเหล่านั้น
7. หลอกลวงว่าจะได้บุญ
ในบางกรณีแชร์ลูกโซ่จะหลอกลวงโดยใช้ความเชื่อทางศาสนาโดยชักชวนผู้คนให้ทำบุญหรือบริจาคเงินเพื่อสร้างบุญ โดยอ้างว่าเงินที่ได้รับจะนำไปใช้ในการสร้างวัด หรือช่วยเหลือสังคม แต่แท้จริงแล้วเงินที่ได้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือใช้เพื่อขยายฐานสมาชิกในโครงข่าย
ความสำคัญในการให้ความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่
การให้ความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคม เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลโกงที่สามารถส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรุนแรง ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่เพียงแค่สูญเสียเงินลงทุน แต่ยังอาจต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายและความเสียหายทางสังคมอีกด้วยการให้ความรู้ในประเด็นนี้จึงเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและมีความสำคัญ ดังนี้:
1. ป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
การให้ความรู้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ช่วยให้ผู้คนสามารถระบุลักษณะและรูปแบบของกลโกงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เมื่อคนทั่วไปมีความรู้และเข้าใจถึงความเสี่ยง พวกเขาจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติและไม่ถูกหลอกลวงได้ง่าย
2. ลดการแพร่กระจายของแชร์ลูกโซ่
การแชร์ลูกโซ่มักจะพึ่งพาการขยายตัวจากการชักชวนสมาชิกใหม่ การให้ความรู้สามารถลดโอกาสที่กลุ่มคนจะเข้าร่วมและขยายต่อไปได้ เมื่อมีคนจำนวนมากที่เข้าใจถึงความเสี่ยงและกลโกงนี้ จะทำให้แชร์ลูกโซ่ขยายได้ยากขึ้นและอาจหยุดลงในที่สุด
3. สร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชนและสังคม
เมื่อชุมชนมีความรู้และตระหนักถึงวิธีการทำงานของแชร์ลูกโซ่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันทางสังคมในระยะยาวให้กับชุมชน ความรู้เรื่องนี้สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ลดโอกาสที่คนในชุมชนจะตกเป็นเหยื่อหรือเข้าร่วมโครงการที่ไม่มีความโปร่งใส
4. เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน
ความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่ช่วยให้ผู้คนมีความเข้าใจในเรื่องการลงทุนมากขึ้น และสามารถตรวจสอบแหล่งลงทุนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ส่งผลให้คนสามารถเลือกลงทุนในแหล่งที่น่าเชื่อถือและถูกกฎหมาย ลดโอกาสที่จะสูญเสียเงินไปกับกลโกงทางการเงิน
5. ส่งเสริมความยุติธรรมในสังคม
แชร์ลูกโซ่มักทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ เพราะกลุ่มผู้ริเริ่มหรือคนที่เข้าร่วมในช่วงแรก ๆ จะได้ประโยชน์ในขณะที่คนที่เข้ามาภายหลังจะเสียหาย การให้ความรู้ช่วยลดความไม่เป็นธรรมนี้ โดยป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ไม่รู้เท่าทัน
6. สร้างความตระหนักรู้ในสิทธิและกฎหมาย
การให้ความรู้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ยังเป็นการส่งเสริมให้คนรู้ถึงสิทธิของตนเอง และทราบว่าการกระทำแบบใดถือว่าผิดกฎหมายการรู้จักกลไกทางกฎหมายจะช่วยให้ผู้คนสามารถรายงานหรือป้องกันตนเองจากการถูกเอารัดเอาเปรียบได้
7. ลดผลกระทบทางจิตใจ
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ไม่เพียงแต่สูญเสียทรัพย์สินแต่ยังส่งผลกระทบทางจิตใจเช่น ความรู้สึกผิด ความเครียดหรือความเสียใจการให้ความรู้จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดประสบการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเหล่านี้
การเข้าใจและตระหนักถึงกลโกงต่าง ๆ ผ่านการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ประชาชนในชุมชนมีความระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ การตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจใด ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ การให้ความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่ในชุมชนไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันปัญหาการหลอกลวงทางการเงิน แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับสังคมในระยะยาวอีกด้วย